การตายของเจ้าหญิงไดอานา โศกนาฏกรรมโลกไม่ลืม

การตายของเจ้าหญิงไดอานา โศกนาฏกรรมโลกไม่ลืม

เรื่องราวชีวิตความรัก ของเจ้าชายแห่งราชวงศ์อังกฤษ อย่างเจ้าชายชาร์ลส์ และ เจ้าหญิงไดอานา เป็นที่จับตามองของชาวโลกในช่วงยุค 90’s เป็นอย่างมาก แต่เรื่องราวความรักดังเทพนิยายของทั้งคู่ก็ได้จบลงในปี 1996 หลังครองรักกันมานานกว่า 11 ปี เนื่องจากชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยการเชือดเฉือนประชดประชัน และมันก็ นำมาสู่การหย่าร้างในที่สุด จนกระทั่งข่าวร้ายได้เกิดขึ้น กับการจากไปของเจ้าหญิงไดอานา ด้วยอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

 Princess Diana

 เจ้าหญิงไดอานา ทรงเป็นพระมารดาของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่ รัชทายาทลำดับที่ 2 และ 3 ของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งด้วยพระสิริโฉมที่งดงามรวมถึงการแต่งตัวที่นำแฟชั่น ทำให้พระองค์ทรงกลายเป็นที่สนอกสนใจของสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่อภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์เมื่อปี พ.ศ. 2524 จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ เมื่อปี พ.ศ. 2540 เช่นเดียวกับเจ้าหญิงแคทเธอรีน พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม ที่ทรงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเช่นกันนับตั้งแต่เสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม

เจ้าหญิงไดอานาแห่งเวลส์ มีพระนามเดิมว่า ไดอาน่า สเปนเซอร์ ประสูติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ในครอบครัวของจอห์น สเปนเซอร์ (เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 8) กับนางฟรานเซส ชานด์ คีดด์ โดยพ่อของเจ้าหญิงไดอาน่านั้นสืบเชื้อสายมาจากดยุคแห่งมอลเบอระที่ 1 เมื่อยังทรงพระเยาว์นั้น ทรงอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ กระทั่งอายุ 8 ขวบ พ่อและแม่ก็หย่าร้างกัน ทำให้เจ้าหญิงและพี่น้องทั้ง 4 คน อยู่ในความดูแลของพ่อนับแต่นั้นมา

          ในด้านการศึกษา เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเรียนจบชั้นประถมจากโรงเรียนริดเดิลสเวิร์ธ เมืองนอร์ฟอล์ก และเข้าเรียนชั้นมัธยมจากโรงเรียนสตรีเวสต์ฮีธ มณฑลเคนท์ แต่ยังไม่ทันจะเรียนจบ เจ้าหญิงไดอานาก็ทรงลาออกจากโรงเรียน ส่วนหนึ่งเพราะผลการเรียนตกต่ำ (แต่โดดเด่นเรื่องกิจกรรมมาก ๆ) แล้วติดตามซาราห์ พี่สาวคนโต ไปเรียนต่อในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 Princess Diana

 ในช่วงนี้เองที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงได้พบกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เพราะในขณะนั้น ซาราห์ พี่สาวของพระองค์ คบหาอยู่กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แต่ไม่นานนักเจ้าหญิงไดอาน่าก็กลับมาที่อังกฤษ เพราะโรงเรียนบังคับให้พูดแต่ภาษาฝรั่งเศส และหลังจากกลับมาแล้ว เจ้าหญิงไดอาน่าก็ทรงเข้าเรียนการทำอาหาร แต่ไม่ชอบนักจึงเป็นครูสอนเต้นรำ ก่อนจะลงเอยด้วยการไปสมัครงานในโรงเรียนอนุบาล และเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวอเมริกันในลอนดอนด้วย

          แต่แล้วโชคชะตากลับพลิกผัน เมื่อต่อมาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงเลิกรากับซาราห์ พระองค์ก็ทรงสนพระทัยเจ้าหญิงไดอาน่าอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ. 2523 หลังจากที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงร่วมชมการแข่งขันโปโลของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และทั้งสองพระองค์ทรงพูดคุยกันในงานปาร์ตี้ จนในที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็พัฒนาเป็นความรักกระทั่งเข้าพิธีอภิเษกสมรสในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ที่มหาวิหารเซนต์ปอล กรุงลอนดอน ท่ามกลางความปีติยินดีของชาวอังกฤษและผู้ชมทั่วโลกที่ติดตามการถ่ายทอดสดพิธีดังกล่าว

 หลังจากนั้น เจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์ ก็ทรงประสูติพระโอรส 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทรงกลายเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์นั้น พระองค์ก็ทรงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและเหล่าปาปารัซซีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพระองค์ทรงหย่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เมื่อปี พ.ศ. 2539 สื่อมวลชนก็จดจ้องรอทำข่าวของทั้งฝ่ายเจ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ชนิดที่เรียกว่าเกาะติด เพราะทั้งสองต่างก็พบรักครั้งใหม่ โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงกลับไปคบหากับคามิลลา คนรักเก่า ส่วนเจ้าหญิงไดอาน่าก็ได้พบรักกับศัลยแพทย์ชาวปากีสถาน ก่อนจะพบรักอีกครั้งกับโดดี อัล ฟาเยด ลูกชายของมหาเศรษฐี โมฮัมหมัด อัล ฟาเยด

 จากนั้น ดูเหมือนว่าเรื่องราวความรักกำลังจะไปได้สวย เมื่อเจ้าหญิงไดอาน่าได้ไปพักร้อนกับครอบครัวฟาเยดอย่างชื่นมื่น แต่เมื่อกลับมา ระหว่างที่เจ้าหญิงไดอาน่าและโดดีกำลังเดินทางออกจากโรงแรมในฝรั่งเศส ช่างภาพก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามเพื่อถ่ายภาพ ขณะที่รถของเจ้าหญิงไดอาน่าก็ได้เร่งความเร็วเพื่อหลบหนี กระทั่งมาถึงอุโมงค์ปองต์ เดอ ลัลมา คนขับรถซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาก็ไม่สามารถควบคุมรถยนต์ให้วิ่งต่อไปอย่างปลอดภัยได้ จึงประสบอุบัติเหตุ ทำให้คนขับรถและนายโดดีเสียชีวิตทันที ส่วนเจ้าหญิงไดอาน่านั้นสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา

 Princess Diana

การสิ้นพระชนม์

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.​ 2540 ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เสียชีวิตภายหลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ภายในอุโมงค์ทางลอดสะพานปองต์เดอลัลมา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดดี ฟาเยด เพื่อนชายคนสนิท และอ็องรี ปอล คนขับรถ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ เทรเวอร์ รีส์–โจนส์ ผู้ทำหน้าที่องครักษ์ 

 Princess Diana

ขบวนช่างภาพปาปารัสซีที่ติดตามไดอานาตกเป็นจำเลยสังคมทันที เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวว่าช่างภาพปาปารัสซีเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ แต่การสืบสวนของหน่วยงานยุติธรรมของฝรั่งเศสซึ่งใช้เวลานานกว่า 18 เดือน สรุปผลว่า นายอ็องรี ปอล อยู่ในอาการมึนเมาขณะขับรถยนต์และไม่สามารถควบคุมรถซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงได้ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในคืนนั้น อ็องรี ปอล นั้นเป็นรองหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยโรงแรมริตซ์ และก่อนเกิดอุบัติเหตุเขาได้ท้าทายกลุ่มช่างภาพปาปารัสซีที่คอยอยู่หน้าโรงแรม เจ้าหน้าที่นิติเวชยังตรวจพบยาต้านอาการทางจิต และยาต้านโรคซึมเศร้าในตัวอย่างเลือดของอ็องรี ปอล และอีกหนึ่งข้อสรุปก็คือ กลุ่มช่างภาพปาปารัสซีไม่ได้อยู่ใกล้รถเบนซ์ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ

เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 โมฮัมเหม็ด ฟาเยด บิดาของโดดี และเจ้าของโรงแรมริทซ์ กล่าวอ้างว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเป็นแผนลอบสังหาร ซึ่งปฏิบัติการโดยหน่วยสืบราชการลับ MI6 ตามคำพระบัญชาของพระราชวงศ์ แต่คำกล่าวอ้างของโมฮัมเหม็ดขัดแย้งกับผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส  และปฏิบัติการแพเจต ของตำรวจนครบาลอังกฤษ พ.ศ. 2549

2 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มีการเบิกความคดีการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งโดยผู้พิพากษา สกอต เบเกอร์ ณ ศาลอุทธรณ์ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีต่อเนื่องมาจากครั้งแรกใน พ.ศ. 2547

7 เมษายน พ.ศ. 2551 คณะลูกขุนแถลงคำตัดสินปิดคดีว่า การเสียชีวิตของไดอานาและโดดีเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นผลจากความประมาทอย่างร้ายแรงของอ็องรี ปอล และความประมาทอย่างร้ายแรงกลุ่มช่างภาพปาปารัสซีที่ไล่ติดตาม นอกจากนี้คณะลูกขุนยังระบุถึงปัจจัยอื่นเพิ่มเติมที่มีส่วนให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ 1) คนขับรถบกพร่องในการตัดสินใจเนื่องจากตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ 2) ข้อเท็จจริงที่ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัยอาจเป็นเหตุหรือมีส่วนทำให้ถึงแก่ความตาย 3) ข้อเท็จจริงที่รถเบนซ์พุ่งชนตอม่อภายในถนนลอดอุโมงค์สะพานปองต์เดอลัลมา และไม่ได้พุ่งชนวัตถุหรือสิ่งอื่นใด

African Legends พันธมิตร Microgaming Slingshot Studios โยนหมวกของพวกเขาเข้าสู่เวทีแจ็คพอตด้วยสล็อตธีมแอฟริกา African Legends แม้จะมีรูปลักษณ์และคุณสมบัติที่คุ้นเคยมากมาย แต่มีเพียงเหตุผลเดียวที่คุณต้องการหมุนตัวนี้ นั่นคือแจ็คพอต Wow Major

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : ย้อนประวัติศาสตร์ ฟาโรห์หญิง 6 พระองค์ของอียิปต์