รู้จักกับอาชีพ เกอิชา ที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด

เกอิชา เป็นอาชีพของผู้หญิงญี่ปุ่น ที่ใช้ศิลปะแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการร่ายรำ เล่นดนตรี หรือร้องเพลง เพื่อให้ความบันเทิงแก่ลูกค้า โดยผู้ที่จะเป็นเกอิชาได้นั้น ต้องมีทักษะความสามารถเฉพาะตัว และมีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของผู้ที่จะมาใช้บริการได้เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันจากการนำเสนอของสื่อ ทำให้อาชีพเกอิชา ถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ บ้างก็ว่าเป็นอาชีพที่หลอกลวง โดยใช้ศิลปะบังหน้าเพื่อขายเรือนร่าง บ้างก็ว่าเป็นมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของหญิงขายบริการ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง เราจะพามารู้จักกับอาชีพเกอิชา ที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด ว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร และจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
รู้จักกับอาชีพ เกอิชา

อาชีพ เกอิชา มีหน้าที่อะไร
คำว่าเกอิชานั้น ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “เกชะ” ซึ่งคำว่า”เก” แปลว่าศิลปะ โดยเกอิชามีต้นกำเนิดที่เมืองเกียวโต ราวศตวรรษที่ 17 (ยุคเอะโดะ)และในปัจจุบันยังคงพบเห็นเกอิชาได้ในย่านกิอง จังหวัดเกียวโต โดยเฉพาะในงานเทศกาล “กิอง มัตซึริ” ช่วงเดือนกรกฎาคม
เกอิชาคือ ผู้สร้างความบันเทิงให้แก่คนมีฐานะและคนมีอำนาจ เดิมทีลูกค้าของเกอิชาเป็นซามูไร, เหล่าไดเมียวและโชกุน แต่ในปัจจุบันลูกค้ารายใหญ่ของเกอิชา คือ บรรดานักการเมือง, นักแสดงและผู้บริหารระดับสูง ที่มักจะจ้างเกอิชาเป็นรายชั่วโมง เพื่อมาสร้างความบันเทิงในขณะรับประทานอาหารในร้านอาหารพื้นเมืองของญี่ปุ่นหรือโรงน้ำชา โดยการเจรจาธุรกิจส่วนใหญ่จะราบรื่นขึ้นเมื่อมีเกอิชาอยู่ในวงการเจรจานั้น
เกอิชาจะได้รับการฝึกศิลปะแขนงต่าง ๆ จนชำนาญจากเจ้าสำนัก พวกเธอจะต้องเป็นทั้งนักดนตรี ทั้งผู้ขับร้องและร่ายรำ รวมถึงการชงชา, การจัดดอกไม้และการขับขานบทกวี ตลอดจนการเรียนรู้เรื่องกิริยามารยาท การวางตัวในสังคม แต่ที่สำคัญที่สุด คือต้องเป็นคู่สนทนาที่ดีสำหรับลูกค้า
การแต่งหน้าขาวของเกอิชาจะใช้แป้งผสมน้ำมาทาลงบนใบหน้าและลำคอเหมือนลบหน้าเดิมทิ้ง เว้นการทาแป้งที่บริเวณหลังคอเป็นลายให้เห็นสีผิวจริง เขียนคิ้วขึ้นใหม่ด้วยสีดำเจือสีแดงเรื่อ ๆ ให้เหนือคิ้วเดิมขึ้นไปเล็กน้อย หางตาตกแต่งด้วยสีแดง ริมฝีปากทาด้วยสีแดงสด การเป็นเกอิชาถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้หญิงญี่ปุ่นภูมิใจมาก แต่หญิงที่ทำอาชีพนี้ในอดีตต้องมีการตัดสินใจ ที่เด็ดเดี่ยวในการครองตัวเป็นโสด แต่ในปัจจุบันผู้ที่ทำอาชีพเกอิชาสามารถลาออกไปแต่งงาน และเปิดสำนักเพื่อสอนเกอิชาได้

การฝึกเป็นเกอิชา
กว่าจะได้เป็นเกอิชานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องได้รับการอบรมศิลปวิทยาการมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในอดีตสำนักเกอิชาจะซื้อตัวเด็กหญิงมาจากครอบครัวที่ยากจนแล้วนำมาเลี้ยงดู โดยจะเริ่มฝึกฝนจากการทำงานบ้านทั่วไป และคอยติดตามรับใช้เกอิชารุ่นพี่พอโตขึ้นมาหน่อยก็จะได้เรียนศิลปะหลากหลายแขนง เช่น การเล่นดนตรี, การขับร้อง, การร่ายรำ, การชงชา, การจัดดอกไม้ รวมถึงเรื่องบทกวีและวรรณคดี โดยเฉพาะศิลปะแห่งความงามของเกอิชา
เด็กที่อยู่ในช่วงฝึกหัดการเป็นเกอิชาจะถูกเรียกว่า “ไมโกะ” ซึ่งไมโกะจะคอยติดตามเกอิชารุ่นพี่ไปตามร้านน้ำชาหรืองานสังสรรค์ต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้มารยาทในการรับลูกค้า และสันทนาการความบันเทิงให้กับลูกค้า ทำให้ได้ประสบการณ์ทำงานจริงและเพิ่มความชำนาญ ก่อนจะสอบเลื่อนขั้นเพื่อจะได้เป็น”เกอิชา” หญิงที่จะเป็นเกอิชาได้ไม่จำเป็นต้องผ่านการเป็นไมโกะก่อนเสมอไป แต่หญิงคนไหนที่ได้ผ่านการเป็นเป็นไมโกะมาก่อน จะได้รับการถ่ายทอดศิลปะและการใช้เสน่ห์มาอย่างชำนาญ ดังนั้น ตำแหน่งไมโกะของเกอิชาที่เก่งกาจจึงมักเป็นที่อิจฉาอยู่เสมอ ปัจจุบันด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น ทำให้เกอิชาในประเทศญี่ปุ่นลดจำนวนลงเรื่อย ๆ แต่ถึงแม้จะมีสถานบันเทิงสมัยใหม่ผุดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังมีลูกค้าบางส่วนที่ยังคงชื่นชอบวัฒนธรรมนี้อยู่

เกอิชาในปัจจุบัน
แม้ในอดีตเกอิชามีทั้งผู้ที่สมัครใจจะเป็นและคนที่ถูกซื้อตัวมา แต่คนที่เป็นเกอิชาในปัจจุบันนั้น เป็นไปด้วยความสมัครใจของตนเอง การฝึกฝนอาชีพจะเริ่มต้นที่หญิงสาวช่วงวัยรุ่นตอนปลาย ไม่ใช่เด็กหญิงอย่างในอดีต และจะใช้เวลาที่ยาวนานและยุ่งยากมากกว่าเพราะฝึกเมื่ออายุมาก ชุดและเครื่องประดับผมของเกอิชา จะต้องเป็นชุดที่งามล้ำและมีราคาสูง ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติแก่ลูกค้าที่มาว่าจ้างเธอ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเกอิชาจึงสูงตาม โดยปกติเกอิชามักมีผู้อุปถัมภ์ที่เรียกว่า”ดันนะ” คอยดูแลให้การสนับสนุนในเรื่องการเงิน แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงของพวกเธอ ทำให้ปัจจุบันมีเกอิชาน้อยคนที่จะมีผู้อุปถัมภ์ ส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรหรือบริษัทที่จะเป็นผู้อุปถัมภ์ เพื่อให้เกอิชามาแสดงเมื่อบริษัทมีงานสำคัญ
ความแตกต่างของเกอิชากับโออิรัน
จากหนังเรื่อง “The memory of Geisha” ทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพลักษณ์ ของเกอิชาเป็นอย่างมาก บทบาทของหญิงในเรื่องที่ถูกนำเสนอ โดยชาวตะวันตกจะเป็นไปทาง”โออิรัน”ซึ่งเป็นหญิงขายบริการมากกว่า จะเป็นการนําเสนอภาพลักษณ์ของเกอิชาจากภาพพจน์ของเจ้าของวัฒนธรรม
เกอิชาจะขายศิลปะแต่โออิรันจะขายเรือนร่าง เกอิชากับโออิรันมีความแตกต่างกันพอสมควร โดยสังเกตอย่างง่ายจากการแต่งตัว โดยที่โออิรันจะผูกโอบิไว้ข้างหน้า เพื่อความสะดวกในถอดชุดออกและใส่ชุดใหม่ได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่เกอิชามีผูกโอบิจากข้างหลังตามแบบชุดกิโมโนของหญิงชาวญี่ปุ่นทั่วไป เครื่องประดับผมของโออิรันจะมีความอลังการและมีน้ำหนักมากกว่าเกอิชามาก เห็นไหมล่ะคะ ว่าอาชีพเกอิชานั้น ไม่ใช่แค่อาชีพบริการทั่ว ๆ ไป ที่ใครก็สามารถเป็นได้ หรือมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ อย่างที่สื่อได้มีการนำเสนออย่างบิดเบือน เพราะถ้าศึกษาข้อมูลดี ๆ จะรู้เลยว่า เกอิชาจะต้องมีความรู้ความสามารถที่รอบด้าน และมีทักษะการเข้าสังคมที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญสามารถเก็บความลับของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ประวัติศาสตร์ประเทศไทยกับ 6 ปัจจัย ที่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ได้อีกในอนาคต เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เมื่อ 6 ตุลาคม 2519 หรือที่เรียกว่า การสังหารนักศึกษา ไม่ได้เป็นประวัติศาสตร์ที่ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
5 เกมสล็อต ตัวช่วยหาเงิน จาก SLOTXO วันนี้เรามีเกมสล็อตสนุก ๆ ตัวช่วยหาเงินจาก SLOTXO มาแนะนำผู้เล่นกัน